การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาระหว่างเพื่อนนักเรียนด้วยกันเอง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างครูกับนักเรียน ความขัดแย้งระหว่างครูกับผู้ปกครอง ซึ้งมีกระทบต่อนักเรียนด้วยกันทั้งสิ้น การแก้ปัญหาความขัดแย้งนั้นในที่นี้จะเสนอ ๒ แนวทาง คือ
๑ การใช้หลักการประนีประนอม
๒ การจัดการกับความขัดแย้งโดยจำแนกตามพฤติกรรม
หลักการประนีประนอม (compromising)
มีหลักการในการแก้ปัญหาดังต่อไปนี้
๑ ต้องวิเคราะห์สาเหตุของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยคนกลาง เป็นคนที่ช่วยคลี่คลายความขัดแย้ง ได้แก่ ครู ผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน
๒ คนกลางหรือผู้ที่ช่วยคลี่คลายความขัดแย้งเป็นผู้พูดคุยกับทั้ง ๒ ฝ่ายถึงสาเหตุทีละฝ่ายเพื่อจะได้เรียนรู้ถึงความเหมือนและความแตกต่างของความคิดและความต้องการ และ เป้าหมายของแต่ละฝ่าย
๓ คนกลางจะพิจารณาข้อขัดแย้งเหล่านี้ และสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่ชั่งน้ำหนักไปว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด
๔ เมื่อทราบสาเหตุที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งแล้วจึงจะเรียกบุคคลทั้ง ๒ ฝ่าย มาพูดคุยพร้อมกัน โดยคนกลางจะเป็นผู้พูดชี้ให้เห็นถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นและผลที่จะได้รับเมื่อเกิดความขัดแย้ง
๕ ให้ทั้ง ๒ ฝ่ายได้ปรับความเข้าใจกันพูดถึงจุดประสงค์ ความต้องการของแต่ละฝ่ายและดำเนินการตัดสินความถูกต้องและความเป็นไปได้ในการตัดสิน หรือ อาจจะเป็นการเจรจาต่อรอง และสามารถตกลงกันได้โดยการพบกันครึ่งทาง เพื่อให้ได้ข้อยุติของปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยต้องสร้างบรรยากาศให้เกิดความรู้สึกเป็นกันเอง
การจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยจำแนกตามพฤติกรรม
การจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยจำแนกตามพฤติกรรมมีหลักสำคัญต่อไปนี
๑ การหลีกเลี่ยง (Avoidance) เป็นการหลบเลี่ยงปัญหาพยายามให้ตนเองหนีไปจากเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาขัดแย้ง โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้ามที่จะนำความขัดแย้งมาหาตนโดยอาจจะเปลี่ยนประเด็นการสนทนา วิธีนี้จะใช้ได้ในกรณีที่เป็นเรื่องไร้สาระ และมีปัญหาอื่นๆ ที่รอแก้ไขอยู่ หรือการแก้ปัญหาความขัดแย้งนั้นส่งผลเสียมากกว่าผลดี ยกตัวอย่างเช่น นักเรียน ๒ คนเกิดปัญหาความขัดแย้งในขณะที่โกรธ กำลังโมโห ไม่สมควรที่จะรีบแก้ปัญหาความขัดแย้งนั้นทันที เพราะอารมณ์โกรธจะทำให้ความพยายามในการแก้ปัญหาความขัดแย้งไม่เป็นผล
๒ การยอมให้ (Accommodation)เป็นวิธีการแก้ปัญหาโดยการยอมเสียสละความต้องการของตนเองเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามบรรลุความต้องการของตนเอง ซึ่งทำให้บรรเทาความขัดแย้งได้ในเวลาอันรวดเร็ว ผู้ที่แสดงพฤติกรรมการยอมให้นอกจากจะเป็นผู้เสียสละแล้ว ยังเป็นผู้ที่ไม่ต้องการเกิดความบาดหมางในระหว่างบุคคล และคู่กรณีที่ได้รับประโยชน์เกิดความพึงพอใจและยุติข้อขัดแย้ง แต่อีกฝ่ายที่เสียประโยชน์ก็จะเก็บความรู้สึกดังกล่าวเก็บไว้ภายในจิตใจ ถ้าหากเจอเหตุการณ์ที่ขัดแย้งอีกก็จะนำเรื่องเก่ามาพูดถึงอีก ซึ่งถือว่าจะเป็นการรักษาสัมพันธภาพในระยะยาว
๓ การเอาชนะ (Competition) เป็นการใช้วิธีเอาแพ้เอาชนะอาจจะต้องทำลายอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองหวังไว้ วิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งวิธีนี้ใช้ได้ผลเมื่อทั้ง๒ ฝ่ายมีความสัมพันธ์เกี่ยวกันเพียงเวลาสั้นๆและไม่มีความจำเป็นต้องรักษาสัมพันธภาพในระยะยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น